Universal Design 7 หลักการออกแบบเพื่อการเข้าถึงทุกพื้นที่อย่างเท่าเทียม

Universal Design 7 หลักการออกแบบเพื่อการเข้าถึงทุกพื้นที่อย่างเท่าเทียม

Universal Design หรือ อารยสถาปัตย์ คือ 7 หลักการออกแบบสภาพแวดล้อมสำหรับผู้สูงอายุ ผู้พิการ และคนทั่วไป เพื่อสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงพื้นที่สำหรับทุกคน

ตั้งแต่ปี 1947 ตลอดกว่า 78 ปี Cibes Lift ยึดมั่นในแนวคิด "Bring People Together" เพราะเราเชื่อว่าลิฟท์ไม่ใช่แค่พาคนขึ้น-ลงระหว่างชั้น แต่คือการเชื่อมผู้คนทุกวัยเข้าหากัน โดยเฉพาะในยุคที่ผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นและทุกคนต้องการความสะดวกสบายที่มาพร้อมกับความปลอดภัย เราจึงมุ่งสร้างลิฟท์ที่ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงทุกพื้นที่ได้อย่างเท่าเทียม ซึ่งไปในทิศทางเดียวกันกับการออกแบบพื้นที่ตามหลัก Universal Design ที่ว่า "เข้าถึง เท่าเทียม เท่าทันและยั่งยืน"

บทความยาวไปอยากเลือกอ่าน

ตั้งแต่ปี 1947 ตลอดกว่า 78 ปี Cibes Lift ยึดมั่นในแนวคิด "Bring People Together" เพราะเราเชื่อว่าลิฟท์ไม่ใช่แค่พาคนขึ้น-ลงระหว่างชั้น แต่คือการเชื่อมผู้คนทุกวัยเข้าหากัน โดยเฉพาะในยุคที่ผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นและทุกคนต้องการความสะดวกสบายที่มาพร้อมกับความปลอดภัย เราจึงมุ่งสร้างลิฟท์ที่ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงทุกพื้นที่ได้อย่างเท่าเทียม ซึ่งไปในทิศทางเดียวกันกับการออกแบบพื้นที่ตามหลัก Universal Design ที่ว่า "เข้าถึง เท่าเทียม เท่าทันและยั่งยืน"

สนใจติดตั้งลิฟท์บ้าน สอบถามราคาเลย!
สนใจติดตั้งลิฟท์บ้าน สอบถามราคาเลย!

Universal Design คืออะไร ทำไมจึงสำคัญ

Universal Design (UD) หรือ จะเรียกเป็นภาษาไทยว่า อารยสถาปัตย์ คือ หลักการออกแบบสภาพแวดล้อมให้กับคนทุก ๆ กลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ (Eldery People) คนปกติ ผู้พิการ (People with Disabilities) เป็นการทำให้ไม่มีอุปสรรค (Barrier-Free) ในการใช้งาน สร้างความเท่าเทียมกันในการเข้าถึงพื้นที่การให้บริการ การออกแบบเพื่อให้ทุกคนได้เข้าถึงอย่างเท่าเทียม ถือเป็นหลักการที่พัฒนาพื้นที่ให้สังคมมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

หัวใจของ Universal Design

หัวใจสำคัญของ Universal Design คือ การให้มวลชนมีส่วนร่วมในการออกแบบ ผ่านการคำนึงถึงข้อจำกัดในการใช้ชีวิต ทำความเข้าใจในข้อจำกัดดังกล่าว ตั้งเงื่อนไขให้กระบวนการออกแบบให้ตอบสนองต่อการดำเนินชีวิตของมวลชน ทั้งผู้พิการและผู้สูงอายุ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงพื้นที่ได้อย่างเท่าเทียม 

องค์กรกับการออกแบบ Universal Design ปรับเปลี่ยนเพื่อความยั่งยืน

ความเท่าเทียมในการเข้าถึงพื้นที่เป็นสิ่งที่ภาครัฐและเอกชนควรให้ความสำคัญ โดยคุณค่าที่ได้รับจากการออกแบบตามหลัก Universal Design คือความเป็นสากล การก้าวทันโลก และการเพิ่มคุณค่าให้กับองค์กรแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ในการสร้างความเสมอภาคให้กับผู้คน 

universal design 01

Universal Design ความเป็นสากลและอนาคตของสังคมไทย

Universal Design คือแนวคิดการออกแบบที่ทำให้ทุกคนเข้าถึงและใช้งานได้อย่างเท่าเทียม เริ่มจากกฎหมายในสหรัฐอเมริกาและพัฒนาแพร่หลายไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย

  • ที่มาของ Universal Design เริ่มจากกฎหมาย The Americans with Disabilities Act (ADA) ของสหรัฐฯ เมื่อกว่า 30 ปีก่อนซึ่งนำไปสู่การออกแบบสิ่งแวดล้อมให้ทุกคนเข้าถึงได้
  • Universal Design ในประเทศไทยเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2534 โดยการออกกฎหมายสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ และ พ.ศ. 2548 ออกกฎกระทรวงกำหนดสิ่งอำนวยความสะดวกในอาคาร
  • แนวโน้มเรื่อง Universal Design จะมีบทบาทมากขึ้นเนื่องจากประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เพราะ 20% ของประชากรมีอายุ 60 ปีขึ้นไป และในระดับโลกนั้นผู้สูงอายุจะเกิน 10% ของประชากรทั้งหมด

ดังนั้นการปรับใช้ Universal Design ไม่เพียงตอบสนองต่อความต้องการของผู้พิการและผู้สูงอายุ แต่ยังเป็นการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่รองรับทุกคนอย่างเท่าเทียม และทำให้ประเทศไทยก้าวทันสังคมโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง

การปรับใช้หลัก Universal Design ภายในองค์กร สำนักงาน และพื้นที่สาธารณะ

การนำหลัก Universal Design มาปรับใช้ภายในองค์กร สำนักงาน และพื้นที่สาธารณะ ไม่ได้เป็นเพียงการออกแบบเพื่อความสวยงาม แต่คือการสร้างพื้นที่ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้งานได้อย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะผู้พิการและผู้สูงอายุ เช่น

  • มี ป้ายนำทางและสัญลักษณ์ที่ชัดเจน เพื่อให้เข้าใจง่ายและใช้งานสะดวก
  • จัดทำ ที่จอดรถสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ ใกล้จุดบริการสำคัญ
  • สร้าง ทางลาดและลิฟท์ที่ได้มาตรฐาน รองรับการใช้วีลแชร์ ทั้งในด้านความกว้างและองศาที่เหมาะสม
  • เพิ่ม จุดบริการข้อมูลและสื่อเสียง สำหรับผู้พิการทางสายตา
  • ออกแบบ บ้านในองค์กร ซึ่งเป็นพื้นที่ศูนย์กลางให้ทุกคนเข้าถึงและใช้งานได้อย่างเท่าเทียม

ซึ่งการปรับใช้ Universal Design จะช่วยยกระดับสภาพแวดล้อมให้เป็นมิตรต่อทุกคน สร้างความเท่าเทียม และสนับสนุนการบริหารจัดการองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

สนใจติดตั้งลิฟท์บ้าน สอบถามราคาเลย!
สนใจติดตั้งลิฟท์บ้าน สอบถามราคาเลย!

การออกแบบบ้านตามหลัก 7 ประการของ Universal Design

ในการออกแบบบ้านควรยึดตามหลักพื้นฐาน 7 ประการของ Universal Design ซึ่งมีดังต่อไปนี้

1. ความเสมอภาคในการใช้งาน (Equitable use)

ทุกคนควรได้รับสิทธิการเข้าถึงการเข้าถึงทุกพื้นที่อย่างเท่าเทียม ดังนั้นการออกแบบจึงต้องคำนึงถึงลักษณะการใช้งานของคนแต่ละกลุ่ม เช่น ทางลาดเพื่อรองรับวีลแชร์ หรือ การติดตั้งตำแหน่งลำโพงให้กระจายเสียงได้ยินชัดเจนทั่วทั้งหอประชุม เพื่อรองรับผู้พิการทางสายตาที่ใช้ประสาทสัมผัสหูฟังเป็นหลัก เป็นต้น

2. ความยืดหยุ่นในการใช้งาน (Flexibility)

ความยืดหยุ่นคือทางเลือกที่ช่วยให้เข้าถึงได้อย่างเสมอภาค ตัวอย่างความยืดหยุ่นในการใช้งานบ้าน เช่น การออกแบบระบบการนำเสนอข้อมูลให้สามารถนำเสนอผ่านระบบภาพ และมีระบบเสียง (เสียงบรรยาย) เพื่อตอบสนองการใช้งานของผู้พิการทางสายตา เป็นต้น

universal design 02

3. ความเรียบง่ายใช้งานง่าย (Simplicity)

ความเรียบง่ายภายในบ้านนั้นมาจากการลดทอนความซับซ้อนในการใช้งาน ทั้งภาษาและปุ่ม ควรออกแบบให้เข้าใจง่ายให้กับคนทุกกลุ่ม เช่น การออกแบบปุ่มโดยการลดจำนวนปุ่มกด หรือเพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุ เป็นต้น 

4. ข้อมูลมีมากพอสำหรับการใช้งาน (Perceptible Information)

ข้อมูลในหลักการออกแบบ Universal Design หมายถึง การสื่อสารระหว่างผู้ใช้งานและพื้นที่นั้น ๆ ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบของป้ายหรือสัญลักษณ์ที่บอกข้อมูลการใช้งาน เช่น ป้ายห้องน้ำ, ป้ายบอกทาง หรือป้ายทางหนีไฟ เป็นต้น

5. ความปลอดภัย ป้องกันความผิดพลาด (Safety)

การออกแบบพื้นที่สาธารณะตามหลัก Universal Design ต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของทุกคน เช่น

  • ทางลาดและลิฟท์ในสถานีรถไฟฟ้า/ห้างสรรพสินค้า เพื่อให้ผู้สูงอายุหรือผู้ใช้วีลแชร์เคลื่อนย้ายได้ปลอดภัย
  • ระบบเตือนภัยและป้ายบอกทางชัดเจน สำหรับผู้พิการทางสายตาหรือผู้ที่มีข้อจำกัดด้านการมองเห็น
  • พื้นที่อพยพฉุกเฉินที่เข้าถึงง่าย ช่วยลดความเสี่ยงและความสับสนในเหตุการณ์ไม่คาดคิด

สำหรับ Cibes Lift เราเชื่อมโยงหลักการนี้เข้ากับการออกแบบลิฟท์ โดยยึดมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล

universal design 03

มาตรฐานการผลิตลิฟท์ Cibes Lift 

มาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพ (ISO 9001:2015)

Cibes Lift โรงงาน Jiaxing ได้รับมาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพ (ISO 9001:2015) เป็นมาตรฐานสากลที่กำหนดข้อกำหนดสำหรับระบบการจัดการคุณภาพ (QMS) ซึ่งองค์กรต่าง ๆ สามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการดำเนินงาน

มาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม (ISO 14001:2015)

นอกจากนั้น โรงงาน Jiaxing ของ Cibes Lift ได้รับมาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม (ISO 14001:2015) การทำงานสากลที่องค์กรต่าง ๆ ใช้เพื่อสร้างระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม (Environmental Management System หรือ EMS) ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้องค์กรสามารถระบุและจัดการผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นระบบ รวมถึงการลดมลพิษ การใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน และการปรับปรุงสมรรถนะด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง โดย Cibes Lift ให้เน้นการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน (Sustainbility) ให้กับสั่งคม และผู้ใช้งานลิฟท์อย่างแท้จริง

มาตรฐานผลิตภัณฑ์ลิฟท์ยุโรป (EN81-41:2015) by Liftinstituut

อีกทั้งโรงงานผลิตลิฟท์ Cibes ที่ Jiaxing ยังได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ลิฟท์ยุโรป (EN81-41:2015) by Liftinstituut เป็นอีกหนึ่งมาตรฐานที่สำคัญของกระบวนการผลิตลิฟท์ยุโรปสำหรับบ้านโดยเฉพาะ และเป็นมาตรฐานที่ได้รับการนิยมในการตรวจสอบในแถบประเทศยุโรปอีกด้วย มีลักษณะใกล้เคียงกับมาตรฐาน ASME 17.1 ของแถบประเทศอเมริกา

มาตรฐานการผลิตเครื่องจักร (Machinery Directive 2006/42/EC)

เป็นข้อกำหนดที่สำคัญสำหรับเครื่องจักรที่จำหน่ายในสหภาพยุโรป (EU) โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อรับรองความปลอดภัยของผู้ใช้งานและผู้บริโภคจากการใช้งานเครื่องจักร มาตรฐานนี้ครอบคลุมถึงการออกแบบ การผลิต และการติดตั้งเครื่องจักร เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการใช้งาน เช่น การป้องกันการทำงานผิดพลาดและการบำรุงรักษาที่ปลอดภัย

มาตรฐานความปลอดภัย SIL Level 3

ระดับความสมบูรณ์ด้านความปลอดภัย (SIL) คือการวัดผลกระทบที่ฟังก์ชั่นเครื่องมือควบคุมความปลอดภัย (SIF) วิธีการเหล่านี้คำนึงถึงประเภทของอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น ความน่าจะเป็น วิธีที่เกี่ยวข้อง และผลที่ตามมาในแง่ของต้นทุน หากระดับ SIL สูงก็เท่ากับการลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายขึ้น การกำหนด SIL 3 เป็นระดับความเหมาะสม โดยลิฟท์แพลตฟอร์มของ Cibes Lift มีความเร็วตามมาตรฐานอยู่ที่ 0.15 m/s

6. การใช้พลังงานอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ (Low physical effort)

หลักการออกแบบนี้คือหลักที่เน้นให้ผู้ใช้งานลดการใช้แรงมากที่สุด เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ โดยออกแบบตามหลัก Low physical effort เช่น ระบบประตูอัตโนมัติ หรือระบบสแกนนิ้วเพื่อเปิดประตู เป็นต้น

7. มีพื้นที่ในการใช้งานที่เหมาะสม (Size and space for approach and use)

สำหรับการออกแบบบ้านที่คำนึงถึง Universal Design ควรจัดพื้นที่ให้ทุกคนสามารถใช้งานได้สะดวก โดยไม่ถูกจำกัดด้วยสรีระหรืออุปกรณ์ช่วยเหลือ เช่น

รูปแบบ Universal Design ภายในบ้าน 

  • ประตูและโถงทางเดินกว้างพอ ให้ผู้ใช้วีลแชร์หรือผู้สูงอายุที่ใช้ไม้เท้าเคลื่อนตัวได้อย่างคล่องตัว
  • ห้องครัวและพื้นที่ทำงาน จัดระดับเคาน์เตอร์และตู้เก็บของให้หยิบใช้ง่าย ทั้งสำหรับผู้สูงอายุและเด็ก
  • ห้องน้ำ เว้นพื้นที่กว้างรอบโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือ พร้อมราวจับ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัย
  • พื้นที่รอบบ้าน ควรมีพื้นที่ว่างที่เพียงพอสำหรับการหมุนตัวหรือกลับรถของวีลแชร์

การออกแบบเช่นนี้ช่วยให้ทุกคนในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ สามารถใช้งานได้อย่างเท่าเทียมและสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน

สนใจติดตั้งลิฟท์บ้าน สอบถามราคาเลย!
สนใจติดตั้งลิฟท์บ้าน สอบถามราคาเลย!

รุ่นลิฟท์ที่ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับบ้านออกแบบ Universal Design

1.Cibes Air

universal design 04

ลิฟท์บ้าน Cibes Air® มอบอิสระให้คุณในการออกแบบลิฟท์ตามความต้องการ เพิ่มความสวยงาม ความสะดวกสบาย และมูลค่าให้กับที่อยู่อาศัยของคุณ

2.Kithara Lift

universal design 05

Kithara Lift ลิฟท์แพลตฟอร์ม High-back สุดหรู มาพร้อมการดีไซน์เหนือระดับรูปทรงหกเหลี่ยมไม่เหมือนใคร พร้อมไฟ LiT RGBW สุดหรู โดยมีแผงควบคุมระบบสัมผัสขนาด 27 นิ้ว มาพร้อมการควบคุมด้วยเสียง และสแกนใบหน้าในการใช้งาน อีกระดับแห่งความหรูหรา และปลอดภัย

3.Cibes V80 Aurora

universal design 06

Cibes V80 Aurora ลิฟท์บ้านใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์นอร์ดิกพร้อมกระจกแบบพาโนรามาและแผงควบคุมระบบสัมผัสอัจฉริยะ สามารถเลือกทางเข้า-ออกได้สูงสุด 3 ทาง

สุดท้ายนี้ Universal Design ไม่ใช่เพียงแนวคิดด้านการออกแบบ แต่คือการสร้างสังคมที่ทุกคนเข้าถึงได้จริง ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ ผู้พิการ หรือคนทั่วไป การเริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนพื้นที่เล็ก ๆ รอบตัวเรา จะช่วยต่อยอดไปสู่สังคมที่เท่าเทียมและปลอดภัยสำหรับทุกคน

โคมไฟระย้าไม่เพียงให้แสงสว่าง แต่ยังเพิ่มบรรยากาศหรูหราและสะท้อนรสนิยมเจ้าของบ้าน โดยมีหลากหลายสไตล์และแบรนด์หรูอย่าง Elite Bohemia, Lladró และ Baccarat และหากต้องการยกระดับบ้านให้ครบแบบพรีเมียม การติดตั้

งลิฟท์บ้าน Cibes ควบคู่ก็เป็นตัวเลือกที่ลงตัว

หากคุณสนใจลิฟท์บ้าน สามารถติดต่อได้ที่ บริษัท ซีเบส ลิฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด

Showroom ลิฟท์ที่กรุงเทพฯ

2113, 1 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10310

Showroom ลิฟท์ที่เชียงใหม่

123/6 หมู่ 15 ถนนชลประทาน ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200

Showroom ลิฟท์ที่ภูเก็ต

20/82 (Park plaza D) หมู่ 2 ถนนเทพกระษัตรี ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต 83000


ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับลิฟท์บ้านระบบสกรูของเรา สามารถติดต่อเราได้ที่ https://www.cibeslift.co.th/homelift-form เพื่อรับการติดต่อกลับพร้อมนำเสนอราคา