Chandelier มีกี่แบบ ส่อง 3 แบรนด์โคมไฟระย้าสุดหรูในไทย
หากพูดถึงการยกระดับบรรยากาศหรูหราในบ้าน นอกจากโคมไฟระย้าที่เป็นจุดดึงสายตาแล้ว อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์บ้านให้สมบูรณ์แบบคือ Cibes Lift ลิฟท์บ้านดีไซน์สแกนดิเนเวียที่ผสานทั้งความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และความสวยงามเข้าไว้ด้วยกัน
การติดตั้งโคมไฟระย้า หรือแชนเดอร์เลียในบ้านนั้น ไม่ได้เพียงช่วยเพิ่มแสงสว่าง แต่ยังเติมบรรยากาศหรูหราให้พื้นที่ดูโดดเด่นขึ้นในทันที ไม่ว่าจะนำไปแขวนเหนือโต๊ะรับประทานอาหาร หรือประดับบนเพดานห้องนั่งเล่น ปัจจุบันแชนเดอร์เลียมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบและขนาด บทความนี้ Cibes จะพาคุณไปรู้จักประเภทต่าง ๆ พร้อมเคล็ดลับการเลือกให้เหมาะกับสไตล์การตกแต่งบ้านของคุณ
แชนเดอร์เลียมีแบบไหนบ้าง? (Type of Chandeliers)
บ้านที่ติดตั้งลิฟท์ Cibes Air และ Chandelier ที่ผสมผสานได้อย่างลงตัว
อันที่จริงแล้ว ไม่มีการกำหนดตายตัวว่าแชนเดอเลียร์มีกี่ประเภท เพราะผู้ผลิต ร้านค้า และนักออกแบบมักมีการจัดหมวดหมู่ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะแบ่งจาก 2 แบบหลัก ๆ คือ ตามสไตล์ และ ตามรูปทรง ของโคมไฟระย้า ทั้งนี้ทั้งนั้นบางทีผู้ผลิตหรือร้านค้าอาจแบ่งได้อีกแบบ คือแบ่ง ตามวัสดุ ที่ใช้ผลิตก็ได้เช่นกัน
แบ่งตามสไตล์ของโคมไฟระย้า (By Style) เช่น
โคมไฟระย้าแบ่งตามสไตล์
- Traditional หรือ Classic ดีไซน์หรูหรา ประดับคริสตัล ได้แรงบันดาลใจจากพระราชวังและสถาปัตยกรรมยุโรป
- Modern หรือ Contemporary ดีไซน์แบบมีเส้นสายเรียบง่าย ทันสมัย มักใช้วัสดุอย่างโลหะหรือแก้ว
- Rustic หรือ Farmhouse ส่วนใหญ่ดีไซน์จากโครงไม้ เหล็กดัด หรือโคมทรงตะเกียง ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นธรรมชาติ
- Industrial เน้นโชว์หลอดไฟและโครงโลหะดิบ ๆ เหมาะกับการตกแต่งสไตล์ Loft
- Transitional ผสมผสานความ Classic เข้ากับความ Modern ได้อย่างลงตัว
แบ่งตามรูปทรงของโคมไฟ (By Shape / Structure) เช่น
โคมไฟระย้าแบ่งตามรูปทรง
- Candle-Style แขนโคมไฟออกแบบให้คล้ายเชิงเทียน
- Tiered มีหลายชั้นซ้อนกัน เหมาะกับพื้นที่โถงใหญ่
- Globe หรือ Orb โครงสร้างทรงกลม หรือทรงลูกโลก
- Drum ใช้โครงผ้าหรือโลหะทรงกระบอกหุ้มรอบหลอดไฟ
- Sputnik ดีไซน์แตกแขนงรอบทิศ เหมือนดวงดาวในอวกาศ
- Empire ทรงตะกร้ากลับหัว ประดับคริสตัลไล่ระดับ
- Bowl หรือ Inverted ทรงชามคว่ำ แสงไฟส่องขึ้นด้านบน
- Linear Rectangular ทรงยาว เหมาะกับโต๊ะอาหารหรือเคาน์เตอร์ครัว
แบ่งตามวัสดุที่ใช้ทำโคมไฟระย้า (By Material) เช่น
- Crystal ทำจากคริสตัลแท้หรือแก้วเจียรไน รวมถึงอะคริลิกที่ให้เอฟเฟกต์คล้ายคริสตัล
- Wood ทำจากไม้ ให้บรรยากาศอบอุ่นแบบรัสติกหรือฟาร์มเฮาส์
- Metal ทำจากทองเหลือง ทองแดง โครเมียม หรือเหล็กดัด
- Glass ทำจากแก้วแบบใส แก้วแบบขุ่น หรือแก้วแบบมีสี เพื่อเพิ่มลูกเล่นและความสวยงาม
แชนเดอร์เลียยอดนิยม
อย่างที่กล่าวในข้างต้นว่าประเภทของโคมไฟระย้าไม่มีการแบ่งประเภทที่ชัดเจน เราจึงลองสรุปมาให้เป็นโคมไฟระย้ายอดนิยมในประเทศไทยมาให้ 5 ประเภทด้านล่างนี้
1.แชนเดอร์เลียแบบเทียน (Candle Chandeliers)
โคมไฟเชิงเทียน (Candle Chandeliers)
"Candle Chandeliers" หรือที่เรียกว่า "โคมไฟระย้าแบบเทียน" เป็นรูปแบบการตกแต่งดั้งเดิม หรือเรียกว่า Classic Chandeliers มักออกแบบมาให้มีส่วนต่อขยายอย่างน้อย 5 จุด โดยแต่ละจุดจะมีไฟที่ออกแบบเป็นรูปทรงที่เหมือนเทียนจริงๆ อยู่ส่วนปลาย โดยแชนเดอร์เลียประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสไตล์เรียบง่ายแต่หรูหรา ข้อดีอีกอย่างของแชนเดอร์เลียประเภทนี้คือมักจะมีขนาดที่ไม่ค่อยใหญ่มาก จึงสามารถติดตกแต่งในบ้านที่มีพื้นที่ไม่มากนักได้ ปัจจุบันจะไม่ใช้เทียนจริงๆ ในการทำแชนเดอร์เลียประเภทนี้ แต่จะใช้หลุดไฟขนาดเล็กแทน ทำให้มีอายุการเปิดได้นานกว่า
2.แชนเดอร์เลียคริสตัล (Crystal Chandeliers)
โคมไฟระย้าคริสตัล (Crystal Chandeliers)
หากต้องการแต่งบ้านให้ดูวิจิตรตระการตาและเปี่ยมด้วยความอลังการ แชนเดอร์เลียคริสตัล คือคำตอบที่ลงตัวที่สุด โคมไฟประเภทนี้มักมีขนาดกว้าง สร้างบรรยากาศหรูหราด้วยแสงไฟที่สะท้อนผ่านคริสตัล จนเกิดประกายระยิบระยับทั่วทั้งห้อง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับติดตั้งในห้องรับประทานอาหารหรือห้องนั่งเล่น โดยหนึ่งในดีไซน์ยอดนิยมคือ Raindrop Chandelier ซึ่งออกแบบให้คริสตัลเรียงตัวพลิ้วไหวคล้ายหยดน้ำฝน งดงามราวงานศิลป์
3.แชนเดอร์เลียแบบแก้ว (Glass Chandeliers)
โคมไฟระย้าแก้ว (Glass Chandeliers)
แชนเดอร์เลียแบบแก้ว เป็นหนึ่งในสไตล์ยอดนิยม ด้วยจุดเด่นที่ดูแลรักษาง่ายและมีความทนทาน วัสดุหลักคือแก้ว ซึ่งสร้างเสน่ห์จากรูปทรง สีสัน และลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ มีให้เลือกตั้งแต่โทนคลาสสิก มินิมัล โมเดิร์น ไปจนถึงดีไซน์วิจิตรตระการตา การเลือกใช้งานก็ไม่ซับซ้อน เพียงหาดีไซน์ที่เข้ากับบรรยากาศของห้อง หรือเลือกแบบแก้วใสเพื่อให้แสงลอดผ่านได้เต็มที่ เหมาะสำหรับสร้างบรรยากาศโปร่งสบายและสว่างไสว
4.แชนเดอร์เลียสไตล์โมเดิร์น (Modern Chandeliers)
โคมไฟระย้า สไตล์โมเดิร์น (Modern Chandeliers)
สำหรับคนยุคใหม่ที่ชื่นชอบความแตกต่างและไม่ซ้ำใคร แชนเดอร์เลียสไตล์โมเดิร์น คือคำตอบที่ลงตัว ดีไซน์ของมันมักเน้นเส้นสายคมชัดและรูปทรงเรขาคณิต เข้ากับการตกแต่งบ้านสไตล์มินิมัลที่กำลังได้รับความนิยม จุดเด่นอยู่ที่ความเรียบง่ายแต่แฝงด้วยฟังก์ชันการใช้งานทันสมัย แตกต่างจากแชนเดอร์เลียแบบดั้งเดิมที่มักใช้ลวดลายซับซ้อนและเน้นความหรูหราเป็นหลัก
5.แชนเดอร์เลียแบบกรง (Caged Chandeliers)
โคมไฟเพดานกรงเหล็ก (Caged Chandeliers)
แชนเดอร์เลียแบบกรง เป็นงานออกแบบที่ซับซ้อนและโดดเด่น ด้วยโครงสร้างโลหะรูปกรงล้อมรอบดวงไฟตรงกลาง ให้ความรู้สึกคล้ายงานสถาปัตยกรรมร่วมสมัย ด้วยดีไซน์และขนาดที่สะดุดตา จึงเหมาะสำหรับตกแต่งบริเวณทางเข้าบ้าน โดยแขวนเหนือประตูในพื้นที่โปร่งเพื่อสร้างความประทับใจแรกพบแก่แขกผู้มาเยือน นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในห้องอาหารหรือห้องนั่งเล่นได้เช่นกัน เพียงแต่อาจไม่เหมาะกับห้องนอนนัก
แนะนำ 3 แบรนด์แชนเดอร์เลียสุดหรู ที่จำหน่ายในประเทศไทย ปี 2025
1.แชนเดอร์เลีย แบรนด์ Elite Bohemia
แชนเดอร์เลีย Elite Bohemia รุ่น E/L676/32+16/03AD7G (ด้านซ้าย) และ แชนเดอร์เลีย Elite Bohemia รุ่น E/L676/32+16/03AD7N/S (ด้านขวา) ขอบคุณรูปภาพจากร้าน Crystal Symphony
ELITE BOHEMIA ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2539 เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกการผลิตแชนเดอร์เลียคริสตัล (Crystal Chandeliers) ในสาธารณรัฐเช็ก กว่า 25 ปี ELITE BOHEMIA ได้ผลิตโคมไฟคริสตัลสุดหรูที่ผสมผสานงานฝีมือแบบดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้
แชนเดอร์เลียของ ELITE BOHEMIA ประดับตกแต่งที่พักอาศัยส่วนตัว หอแสดงคอนเสิร์ต และปราสาท และเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหราและสง่างาม โดยมีราคาเริ่มต้น 9,900 บาท ถึง 999,900 บาท
2.แชนเดอร์เลีย แบรนด์ Lladró
Winter Palace 30 Lights Chandelier (ด้านซ้าย) และ Belle de Nuit 56 Lights Chandelier (ด้านขวา) ขอบคุณภาพโคมไฟระย้าจาก Lladró
แบรนด์ Lladró เป็นแบรนด์ดังสัญชาติสเปน ก่อตั้งแต่ปี 1953 ผู้นำระดับโลกด้านการออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายงานศิลปะเครื่องเคลือบดินเผา Lladró คือการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างพรสวรรค์ ความกล้าหาญ และความพิถีพิถันในการแสวงหาความเป็นเลิศ
ตั้งแต่งานประติมากรรมไปจนถึงโคมไฟ ของตกแต่งบ้าน และเครื่องประดับ Lladró คือแบรนด์ที่ยึดมั่นในไลฟ์สไตล์ร่วมสมัย มีสไตล์ และเหนือระดับ
แชนเดอร์เลียของแบรนด์ Lladró มีตัวเลือกหลากหลายสำหรับพื้นที่ที่คุณต้องการตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นคอลเลกชัน Niagara และ Magic Forest สร้างสรรค์โดย Bodo Sperlein นักออกแบบชื่อดัง ซึ่งประดับประดาด้วยนางฟ้าหรือใบไม้จากเครื่องเคลือบดินเผา โดยราคาเริ่มต้นของแบรนด์ Lladró $4,650 ถึง $43,550 (ราคาแชนเดอร์เลียตีเป็นเงินไทยประมาณ 150,000 – 1,400,000)
3.แชนเดอร์เลีย แบรนด์ Baccarat
Zénith Printemps Bleu Chandelier (24L) รุ่นใหม่ล่าสุดของ Baccarat (ด้านซ้าย) และ Crinoline Chandelier (13L) รุ่นยอดนิยมของ Baccarat (ด้านขวา) ขอบคุณรูปแชนเดอเลียร์จาก Baccarat
Baccarat ก่อตั้งโดยกลุ่มช่างฝีมือ ผู้หลงใหลในการสร้างสรรงานศิลปะ จากแก้ว ได้สร้างโลกอันน่าหลงใหลและเผยแพร่ความสุขมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2307 (ปี ค.ศ. 1764) จนปัจจุบัน แบรนด์ Baccarat ได้มีสินค้าหลากหลายกลุ่ม จนถึงแชนเดอร์เลียสุดหรู
ซื้อแชนเดอร์เลียที่ไหนดี?
1. LAMP & LIGHT Flagship Store
- ที่อยู่ : 2044/1 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง จังหวัดกรุงเทพฯ 10310
- Website : https://www.lampandlight.com/
- Call : 093-581-5828
- Facebook : https://www.facebook.com/lampandlight.brand
- LINE : @Lampandlight
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/3zbPcxAj7FRc5xTk6
2. คริสตัล ซิมโฟนี่ (Crystal Symphony)
- ที่อยู่ : 729/3-5 ซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ29) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
- Website : https://www.crystalsymphonylighting.com/
- Call : 086-378-4806, 02-185-1335
- Facebook : @crystalsymphony
- LINE : @crystalsymphony
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/d4qsThsKcTZACBCP8?g_st=ic
3. บางกอกแชนเดอเลียร์ (Bangkok Chandelier)
- ที่อยู่ : 1/3 เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 28 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250
- Website : https://www.bangkok-chandelier.com
- Call : 080-905-6695
- Facebook : bangkok.chandelier
- LINE : @bangkok-chandelier
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/h9m6RmaWxJH4T4gu5
โคมไฟระย้าไม่เพียงให้แสงสว่าง แต่ยังเพิ่มบรรยากาศหรูหราและสะท้อนรสนิยมเจ้าของบ้าน โดยมีหลากหลายสไตล์และแบรนด์หรูอย่าง Elite Bohemia, Lladró และ Baccarat และหากต้องการยกระดับบ้านให้ครบแบบพรีเมียม การติดตั้
งลิฟท์บ้าน Cibes ควบคู่ก็เป็นตัวเลือกที่ลงตัว
หากคุณสนใจลิฟท์บ้าน สามารถติดต่อได้ที่ บริษัท ซีเบส ลิฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด
Showroom ลิฟท์ที่กรุงเทพฯ
2113, 1 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10310
Showroom ลิฟท์ที่เชียงใหม่
123/6 หมู่ 15 ถนนชลประทาน ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200
Showroom ลิฟท์ที่ภูเก็ต
20/82 (Park plaza D) หมู่ 2 ถนนเทพกระษัตรี ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต 83000
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับลิฟท์บ้านระบบสกรูของเรา สามารถติดต่อเราได้ที่ https://www.cibeslift.co.th/homelift-form เพื่อรับการติดต่อกลับพร้อมนำเสนอราคา