10 วิธีดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน ให้จิตใจแจ่มใส ร่างกายแข็งแรง

เมื่อคนที่เรารักเข้าสู่วัยสูงอายุ สิ่งสำคัญที่ลูกหลานควรรู้คือ การดูแลผู้สูงอายุ ไม่ใช่เรื่องของสุขภาพกายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสุขภาพใจที่ต้องดูแลเช่นกัน เพราะผู้สูงวัยจำนวนมากเมื่อเกษียณหรือหยุดทำงานแล้ว อาจเผชิญกับความรู้สึกโดดเดี่ยว เบื่อหน่าย หรือหมดคุณค่า หากเราสามารถสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี และดูแลพวกท่านอย่างเข้าใจ ก็จะช่วยให้ท่านมีความสุขในวัยทองอย่างแท้จริง และนี่คือ 10 วิธีดูแลผู้สูงอายุที่เรียบง่ายและคุณสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้
1. สร้างกิจวัตรประจำวันให้ท่าน
กิจวัตรที่เป็นระบบช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกมั่นคง ลดความสับสน โดยเฉพาะในผู้ที่เริ่มมีภาวะหลงลืม การจัดช่วงเวลาให้แน่นอน เช่น เวลาตื่นนอน ทานอาหาร ออกกำลังกาย และพักผ่อน จะช่วยให้ร่างกายและจิตใจทำงานสอดคล้องกัน
เคล็ดลับ: เขียนตารางกิจกรรมไว้ในจุดที่ท่านมองเห็นง่าย เช่น บนตู้เย็นหรือผนังห้องนอน โดยแบ่งช่วงเวลาชัดเจน เช่
- เช้า: ล้างหน้า ทานข้าว เดินเล่นเบา ๆ
- กลางวัน: พักผ่อน หรือทำสิ่งที่ชอบ เช่น รดน้ำต้นไม้
- เย็น: ทานอาหาร อาบน้ำ ดูข่าวหรือฟังเพลง
การมีลำดับกิจกรรมที่แน่นอนเช่นนี้ถือเป็นหนึ่งใน วิธีดูแลคนแก่หลงลืม ที่ช่วยให้ท่านรู้สึกมั่นใจและเป็นอิสระมากขึ้นในแต่ละวัน
2. ชวนการออกกำลังกายเบา ๆ อย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายสำหรับผู้สูงวัยไม่จำเป็นต้องหนัก เพียงแค่เดินช้า ๆ รอบบ้าน ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ หรือรำไทเก็กเบา ๆ วันละ 15-30 นาทีก็เพียงพอแล้ว การเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เพิ่มความยืดหยุ่นของข้อ ลดความเสี่ยงในการหกล้ม และยังดีต่อสุขภาพจิต
เคล็ดลับ: พาท่านเดินเล่นในสวน รำมวยจีน ว่ายน้ำในสระน้ำตื้น หรือเต้นเบา ๆ กับเพลงเก่าโปรด เพื่อเสริมสุขภาพกาย คลายความเหงา และเติมรอยยิ้มให้ท่านได้ในทุก ๆ วัน

ชวนคุณพ่อ คุณแม่ คุณตา คุณยายการออกกำลังกายเบา ๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพของท่าน
3. ดูแลเรื่องอาหารให้ครบถ้วนและเหมาะสมกับวัย
เมื่ออายุมากขึ้น ระบบย่อยอาหารและการดูดซึมจะทำงานน้อยลง จึงควรให้ท่านทานอาหารที่ย่อยง่าย ปรุงสุก สะอาด และมีสารอาหารครบถ้วน โดยเน้นผัก ผลไม้ โปรตีนจากปลา ไข่ เต้าหู้ และลดอาหารมันจัด เค็มจัด หรือหวานเกินไป
เคล็ดลับ: ให้ท่านเสริมวิตามินหรืออาหารเสริมบางชนิดภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เช่น แคลเซียม วิตามินดี หรือโอเมก้า-3 เพื่อช่วยเสริมสร้างกระดูก บำรุงสมอง และลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังในผู้สูงอายุ
4. พูดคุย สื่อสาร สร้างปฏิสัมพันธ์ทุกวัน
แม้จะเป็นเพียงบทสนทนาสั้น ๆ เช่น “เช้านี้อากาศดีนะครับคุณแม่” หรือ “อาหารมื้อคุณพ่อชอบจานไหนที่สุดคะ” ก็มีความหมายมากสำหรับผู้สูงอายุ เพราะจะช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยว และทำให้รู้ว่ายังมีคนใส่ใจพวกท่านอยู่เสมอ
เคล็ดลับ: จงฟังท่านด้วยใจ ไม่รีบร้อนตัดบท ไม่ตำหนิเรื่องเล็กน้อย และเปิดโอกาสให้ท่านเล่าเรื่องในอดีต เพราะการเล่าย้อนความทรงจำไม่เพียงมีผลดีต่อสมองแต่ยังเป็นอีกวิธีดูแลผู้สูงอายุด้านจิตใจได้อย่างดีเลยทีเดียว

Cibes Air ลิฟท์บ้านสำหรับผู้สูงอายุ ที่ติดตั้งในปล่องลิฟท์บ้านที่เตรียมเอาไว้ เสริมความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุ
5. กระตุ้นสมองด้วยกิจกรรมสร้างสรรค์
การกระตุ้นสมองเป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์และภาวะความจำเสื่อม ผู้สูงอายุควรมีกิจกรรมที่ใช้ความคิดเป็นประจำ เช่น อ่านหนังสือ จัดต้นไม้หน้าบ้าน ถักนิตติ้ง ทำสมุดภาพ หรือเล่นเกมง่าย ๆ ที่ช่วยฝึกสมอง
เคล็ดลับ: ชวนท่านเล่าเรื่องในอดีตให้หลานฟัง จัดอัลบั้มภาพเก่า ฝึกท่องบทสวดหรือบทกลอน สอนให้ใช้สมาร์ทโฟน เล่นเกมผ่านมือถือ หรือดูคลิปธรรมะและเพลงเก่าที่ชอบ เพื่อกระตุ้นความจำ เสริมสร้างความสุข และให้ท่านรู้สึกไม่ห่างไกลจากโลกปัจจุบัน
6. สร้างโอกาสให้ท่านได้พบปะ พูดคุย และทำกิจกรรมกับผู้อื่น
แม้ผู้สูงอายุจะอยู่ในบ้าน แต่ก็ควรมีโอกาสได้พบปะคนวัยใกล้เคียงกัน เช่น เข้าร่วมชมรมผู้สูงอายุ ไปวัด หรือไปศูนย์สุขภาพใกล้บ้าน เพื่อเพิ่มความสุขในการใช้ชีวิต และลดภาวะซึมเศร้า
เคล็ดลับ: ชวนท่านวิดีโอคอลพูดคุยกับลูกหลาน ญาติที่อยู่ต่างจังหวัด หรือเพื่อนเก่าสมัยวัยรุ่น เพื่อคลายความคิดถึง เพราะแม้จะอยู่ไกลกันด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันก็สามารถทำให้รู้สึกใกล้กันได้เสมอ

สร้างโอกาสให้ผู้สูงอายุได้พบปะ พูดคุย และทำกิจกรรมกับผู้อื่น
7. พาไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ
การหมั่นตรวจสุขภาพถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับผู้สูงวัย เพราะนอกจากจะเป็นการประคับประคองสุขภาพให้อยู่ในเกณฑ์ปกติแล้ว ยังเป็นการเฝ้าระวังไม่ให้โรคที่เป็นอยู่รุนแรงขึ้น ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคแทรกซ้อน หรือแม้แต่การพบโรคได้เร็วในระยะเริ่มต้น การรักษาก็จะง่ายและหายได้เร็วกว่า
โรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ มีอะไรบ้าง?
เมื่อการทำงานของอวัยวะ เซลล์ และภูมิคุ้มกันต่าง ๆ ในร่างกายของผู้สูงอายุถดถอยลง โรคต่าง ๆ ก็จะเริ่มเข้ามารบกวนมากขึ้น เช่น
โรคเบาหวาน
โรคนี้เกิดจากตับอ่อนไม่สามารถสร้างฮอร์โมนอินซูลินไปใช้ได้อย่างเพียงพอ และร่างกายเกิดภาวะดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน ที่ทำหน้าที่เผาผลาญน้ำตาลในเลือดให้เป็นพลังงาน จึงทำให้ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ
โรคข้อเข่าเสื่อม
โรคข้อเข่าเสื่อมเป็นโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ ซึ่งเกิดได้ทั้งจากอายุที่เพิ่มขึ้น และการใช้งานหนักมาเป็นเวลานาน ทำให้กระดูกผิวอ่อนของข้อเข่าสึกหรอ มีโครงสร้างเปลี่ยนแปลงไปหรือเสื่อมสภาพลง หากไม่ได้รับการรักษาจะส่งผลให้ข้อเข่าผิดรูป และมีปัญหาด้านการเคลื่อนไหวในที่สุด
โรคไต
เมื่อไตทำงานผิดปกติ หรือทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ก็ส่งผลให้มีปัญหาในการกำจัดของเสีย และการควบคุมความเป็นกรดในกระแสเลือด โดยในช่วงแรกผู้ป่วยโรคไตแทบจะไม่มีสัญญาณของโรคร้ายนี้เลย แต่อาการจะปรากฏออกมาในระยะท้าย ๆ ที่ไตเสื่อมไปมากแล้ว ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ในที่สุด
โรคความดันโลหิตสูง
ถือเป็นภัยเงียบที่มักไม่ค่อยแสดงอาการ แต่บางรายอาจพบว่ามีอาการปวดหัว เวียนศีรษะ มึนงง และเหนื่อยง่ายผิดปกติ หากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้อวัยวะต่าง ๆ ได้รับผลกระทบ เช่น หัวใจ หลอดเลือด สมอง ไต และตา
โรคอัลไซเมอร์
เกิดจากการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในสมอง จนสมองบางส่วนทำงานเสื่อมลงอย่างช้า ๆ จึงมีอาการแสดงออกมา เช่น มีอาการหลงลืมบ่อย ๆ ผู้ป่วยจะชอบถามคำถามซ้ำ ๆ หรือในบางรายสมองอาจจะใช้การต่อไปไม่ได้เลย ซึ่งกว่าจะรู้ตัวอาจใช้เวลานานหลายเดือนหรือเป็นปี ๆทีเดียว
ผู้สูงอายุควรตรวจอะไรบ้าง และต้องตรวจบ่อยขนาดไหน
สำหรับผู้สูงอายุ นอกจากการตรวจสุขภาพพื้นฐาน และการดูแลเอาใส่ใจในสุขภาพโดยทั่วไปแล้ว ยังต้องเพิ่มการตรวจสุขภาพแบบเฉพาะจุด และบ่อยกว่าแต่ก่อน ยกตัวอย่างเช่น
- ตรวจตา
-
-
- อายุ 60-64 ปี ควรตรวจตาทุก 2-4 ปี
- อายุ 65 ปีขึ้นไป ควรตรวจทุก 1-2 ปี
-
- ตรวจอุจจาระ
-
-
- อายุ 60 ปีขึ้นไป ควรตรวจอุจจาระปีละ 1 ครั้ง เพื่อคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง
-
- การประเมินภาวะสุขภาพ
-
-
- ควรได้รับการประเมินภาวะโภชนาการ ความเสี่ยงภาวะกระดูกพรุน สมรรถภาพในการทำกิจวัตรประจำวันพื้นฐาน
- อายุ 65 ปีขึ้นไป ควรประเมินสมรรถภาพการทำงานของสมองเพิ่มเติม
-
- ตรวจเต้านมในสตรี
-
-
- อายุ60-69 ปี ควรตรวจเต้านมทุกปี
- อายุ 70 ปีขึ้นไป ควรตรวจตามความเหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์
-
- ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
-
-
- อายุ60-64 ปี ควรตรวจทุก ๆ 3 ปี
- อายุ 65 ปีขึ้นไป ควรตรวจตามความเหมาะสม
-
- ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
-
-
- อายุ 70 ปีขึ้นไปควรตรวจทุกปี
-
- ตรวจระดับไขมันในเลือด
-
-
- ควรตรวจทุก 5 ปี หรือตามคำแนะนำของแพทย์
-
- ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด และตรวจปัสสาวะ ตรวจการทำงานของไต
-
- ควรตรวจทุกปี

หลายโรคที่ยังไม่แสดงอาการ แต่พบได้จากการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
อันที่จริงแล้ว “การตรวจสุขภาพ” เป็นเรื่องที่คนทุกเพศทุกวัยควรให้ความสำคัญ แต่บางโรคโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน “ผู้สูงอายุ” จะไม่มีสัญญาณใด ๆ ที่สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นควรพาท่านไปพบแพทย์เพื่อตรวจให้ละเอียดอย่างสม่ำเสมอ
ทั้งนี้ โดยส่วนใหญ่แล้ว โรคที่เกิดกับ “ผู้สูงอายุ” มักมีความรุนแรงกว่าการเกิดในผู้ที่อายุยังน้อย นั่นเป็นเพราะ… ประสิทธิภาพในการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ นั้นลดลง เซลล์มีความเสื่อมสภาพมากกว่า รวมถึงภูมิคุ้มกันโรคก็ไม่ค่อยแข็งแรงเหมือนเมื่อครั้งยังเป็นหนุ่มเป็นสาวนั่นเอง
ดังนั้น เราจึงควรดูแลใส่ใจทั้ง “สุขภาพกายและสุขภาพใจ” ของ “ผู้สูงอายุ” ให้มาก ๆ เพื่อที่ท่านจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ และอยู่อย่างมีความสุข
8. ปรับปรุงบ้านให้ปลอดภัยและเหมาะสมกับท่าน
สภาพแวดล้อมภายในบ้านมีผลโดยตรงต่อความปลอดภัยของผู้สูงอายุ เช่น อาจเกิดการลื่นล้มในห้องน้ำ หรือสะดุดพรมที่พื้น ดังนั้นคุณควรปรับปรุงบ้านให้ปลอดภัย เช่น
- ติดราวจับและใช้พื้นกันลื่นโดยเฉพาะในห้องน้ำ
- ใช้โถสุขภัณฑ์แบบสูงสำหรับลุก-นั่งง่าย
- เปิดทางเดินให้โล่ง หลีกเลี่ยงเฟอร์นิเจอร์ขวางทาง
- ปรับแสงให้สว่างทั่วถึง โดยเฉพาะช่วงกลางคืน
- ติดตั้งลิฟท์ผู้สูงอายุในกรณีที่บ้านมีมากกว่า 1 ชั้นเพื่อลดความเสี่ยงการเดินขึ้น-ลง บันได
ยกตัวอย่างลิฟท์บ้านรุ่น Cibes Cloud Plus เป็นอีกหนึ่งในรุ่นที่เหมาะสำหรับบ้านที่มีผู้สูงอายุ ด้วยการออกแบบดีไซน์แผงควบคุม และสามารถ Customize การออกแบบสีลิฟท์สามารเลือกสีให้เข้ากับบ้านได้อย่างสวยงาม

Cibes Air ลิฟท์บ้านสำหรับผู้สูงอายุ พร้อมราวจับอัจริยะที่มาพร้อมกับปุ่มกดเลือกชั้น
9. ให้ท่านมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
หนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อความรู้สึกของผู้สูงอายุคือ “ความรู้สึกมีตัวตน” ถ้าเราทำให้ท่านรู้ว่าความคิดเห็นของท่านมีคุณค่า จะช่วยให้จิตใจของท่านสดใส ไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระ
เคล็ดลับ: ลองชวนท่านช่วยวางแผนทริปครอบครัว อ้อนให้ท่านทำอาหารจานโปรดของคุณ หรือขอคำแนะนำจากประสบการณ์ในเรื่องที่ท่านถนัด เช่น การเลี้ยงลูก การทำอาหาร หรือแม้แต่ขอความคิดเห็นของท่านสมัยที่ท่านยังทำงานอยู่
10. แสดงความรักและความใส่ใจอย่างสม่ำเสมอ
ความรักไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดใหญ่โต การพาไปเดินเล่น ซื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ท่านชอบ หรือเพียงแค่จับมือก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้หัวใจของผู้สูงวัยอบอุ่น
เคล็ดลับ: โทรหาทุกวันแม้จะอยู่ใกล้หรือไกล กอดหรือหอมแก้มก่อนที่คุณออกไปทำงาน หรือหาเวลาสุดสัปดาห์พาท่านไปทานอาหารร้านใหม่ ๆ หรือแม้แต่ชวนท่านดูหนัง ดูซีรีย์ด้วยกันที่บ้านก็เป็นวิธีการแสดงความรักความใส่ใจให้ท่านได้เช่นกัน
การเตรียมบ้านสำหรับผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่คนเดียวและการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นเป็นเรื่องสำคัญที่ควรให้ความสนใจ การดูแลและเตรียมบ้านให้ปลอดภัยจะช่วยให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีและปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้การดูแลสุขภาพและการออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุการเตรียมบ้านสำหรับผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่คนเดียวและการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นเป็นเรื่องสำคัญที่ควรให้ความสนใจ การดูแลและเตรียมบ้านให้ปลอดภัยจะช่วยให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีและปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้การดูแลสุขภาพและการออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของร่างกายและจิตใจของผู้สูงอาการเตรียมบ้านสำหรับผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่คนเดียวและการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นเป็นเรื่องสำคัญที่ควรให้ความสนใจ การดูแลและเตรียมบ้านให้ปลอดภัยจะช่วยให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีและปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้การดูแลสุขภาพและการออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของร่างกายและจิตใจของผู้สูงอาการเตรียมบ้านสำหรับผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่คนเดียวและการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นเป็นเรื่องสำคัญที่ควรให้ความสนใจ การดูแลและเตรียมบ้านให้ปลอดภัยจะช่วยให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีและปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้การดูแลสุขภาพและการออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุ
หากคุณสนใจลิฟท์บ้านต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ กับลิฟท์บ้านแบรนด์ Cibes Lift ได้ที่ บริษัท ซีเบส ลิฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด
Showroom ลิฟท์ที่กรุงเทพฯ
2113, 1 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10310
Showroom ลิฟท์ที่เชียงใหม่
123/6 หมู่ 15 ถนนชลประทาน ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200
Showroom ลิฟท์ที่ภูเก็ต
20/82 (Park plaza D) หมู่ 2 ถนนเทพกระษัตรี ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต 83000
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับลิฟท์บ้านระบบสกรูของเรา สามารถติดต่อเราได้ที่ https://www.cibeslift.co.th/homelift-form เพื่อรับการติดต่อกลับพร้อมนำเสนอราคา